วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รู้จัก beagle bone black

สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆ

  ก่อนหน้านี้ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับ raspberry pi ไปบ้างพอสมควร ทีนี้ผมอยากรู้จักบอร์ด Embedded อื่นๆดูบ้าง ก็เลยลองซื้อเจ้า beagle bone black มา เอามาดูว่าเล่นยังไง ทำงานยังไง จะเหมือนกันมั้ย หรือว่าแตกต่าง เรามาดูกันเลยดีกว่า




  beagle bone black มี feature ดังนี้
1. TI Sitara AM3358AZCZ100, 1GHz, 2000 MIPS(million instructions per seconds)
2. on-board 4GB eMMC Flash storage
3. RAM 512MB DDR3L 800MHz
4. 3D graphic accelerator
5. NEON floating-point accelerator
6. 2x PRU 32-bit microcontrollers
7. USB host, Ethernet, HDMI
8. SD/MMC Connector for microSD
9. 2x 46 pin headers
10. Software: Debian, Angstrom, Ubuntu, Android

  จาก spec ด้านบน ที่น่าสนใจก็เห็นจะเป็นความเร็วของ cpu, pin header ที่มีความเร็วมากกว่า Rpi มีช่องเสียบ SD Card เพิ่มเติม, และที่สำคัญสามารถลง OS ได้หลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Ubuntu หรือ android ที่น่าจะทำให้เราสามารถเขียนโปรแกรม หรือ เล่นอะไรๆได้ง่ายกว่า Rpi

ต่อไปเรามาเริ่ม เล่นกัน

step 1 : เสียบสาย USB กับบอร์ด beagle bone
  ซึ่งสาย USB นี้เป็นทั้ง power และ ช่องทางการพัฒนา software ของเราด้วย
  หลังจากที่เสียบสายแล้ว beagle bone จะ boot Linux ขึ้นมาจาก 4GB eMMC on-board
  เราจะเห็นไฟ LED power ติดขึ้นมา สักพักนึงก็จะเห็น LED ดวงอื่นๆติดตามๆกันมา โดย
  USR0 กระพริบเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจ
  USR1 กระพริบเมื่อมีการเข้าถึง micro sd-card
  USR2 กระพริบตามจังหวะการทำงานของ cpu
  USR3 กระพริบเมื่อมีการเข้าถึง eMMC  flash storage


step 2 : install driver
  เราจำเป็นต้องลง driver เพื่อที่จะทำให้ OS ของเราสามารถติดต่อสื่อสารกับ beagle bone black ได้ โดยผ่านสาย USB จาก step1


Note: ถ้าหากต้องการใช้ FTDI USB to serial/JTAG สามารถหาข้อมูลและ download ได้จากhttp://www.ftdichip.com/Drivers/VCP.htm.
   
Note: ถ้าหากต้องการใช้ USB to virtual Ethernet สามารถหาข้อมูลและ download ได้จากhttp://www.linux-usb.org/gadget/ and http://joshuawise.com/horndis.


step 3 : browse to your beagle
  ให้เราใช้ google chrome หรือ firefox เพื่อเปิด web server ของบอร์ด beagle bone (IE ใช้ไม่ได้!!). โดยจะโชว์ให้เห็น presentation ต่างๆ โดยให้เข้าไปที่ address 192.168.7.2


หมายเหตุ
ในขณะที่ใช้ "ssh" ให้ใช้ user name = root, password = ไม่มี
เราสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการ debug ได้ที่ http://beagleboard.org/support


ต่อไปเป็นการ update software ของบอร์ด
step 1: download image ล่าสุด
  เราสามารถ download image ล่าสุดได้ที่ http://beagleboard.org/latest-images
  มีให้เราเลือกอยู่ 3 แบบ ได้แก่
  แบบที่ 1 run beagle bone black โดยใช้ sd card
  แบบที่ 2 run beagle bone black โดยใช้ eMMC flasher
  แบบท่ 3 run beagleboard หรือ beagleboard-xM โดยใช้ sd card


  ผู้เขียนเลือกใช้แบบที่ 1 คือ run บน sd card ซึ่ง file ที่ได้ เป็นนามสกุล .img.xz
(ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ในการ download)

step 2: Download and install 7-zip.
step 3: Decompress image
step 4: Install SD card programming utility
  ในที่นี้เลือก win32 disk Imager  http://sourceforge.net/projects/win32diskimager/files/latest/download
step 5: ต่อ SD card เข้ากับเครื่องคอมฯ
step 6: write image to your SD card
step 7: ถอด SD card ออก
step 8: Boot ด้วย SD card
  ขั้นตอนนี้ให้ใส่ SD card เข้าที่ beagle bone black (ถอดสายไฟออกก่อน), กดปุ่ม user/boot ค้างไว้ แล้วค่อยเสียบสายไฟเข้ามา


  จากนั้นให้เรารอประมาณ 45 นาที เพื่อทำการ update OS จาก SD card ให้กับ eMMC on-board, เมื่อบอร์ดทำการ update เสร็จแล้ว LED 4 ดวงจะติดสลับดับ แล้วจะดับไปเอง, ให้เราถอดสาย power ออก และดึง SD card ออก และเสียบสาย power เข้าไปใหม่ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น


  ทั้งนี้ยังมี Image OS ตัวอื่นๆให้เราเลือกเล่นได้อีก แต่วิธีการจะแตกต่างจากด้านบนบ้าง ควรอ่านตามคำสั่งอย่างละเอียด

  ปัจจุบัน มี OS ที่กำลังจะพัฒนาเพื่อรองรับ Beagle bone black อีกดังนี้
Texas Instrument : Android, Linux
Linux : Debian, Angstrom, Ubuntu, ARCH Linux, ...
Other : QNX, FreeBSD

เราสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.elinux.org/Beagleboard:BeagleBoneBlack
ถ้าหากเราอยากใช้ Android กับ Beaglebone black สามารถดูได้ที่นี่ครับ http://elinux.org/Beagleboard:Android


ที่มา
http://beagleboard.org/getting-started